วันแรก: เริ่มต้นจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทาง ๑๐๗ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง ๑๐๙๕ บริเวณบ้านแม่มาลัย แวะ ชมโป่งเดือดป่าแป๋ ก่อนเข้าปาย สัมผัสทิวทัศน์อันสวยงามอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ถึงปาย ตอนบ่ายๆ ชมสะพานประวัติศาสตร์ปาย จิบกาแฟที่ร้านกาแฟวาวี หรือที่คอฟฟี่อินเลิฟพร้อมบรรยากาศชิวๆ ก่อนเข้าที่พัก
โป่งเดือดป่าแป๋
- มีบ่อขนาดใหญ่ 3 บ่อ และบ่อใหญ่สุดจะมีน้ำพุพุ่งสูงขึ้นมาประมาณ 2 เมตร ทุก 30 วินาที มีความร้อนประมาณ 99 องศาเซลเซียส ใกล้บ่อใหญ่มีห้องอาบน้ำซึ่งนำน้ำร้อนจาก โป่งเดือด ผ่านท่อเข้ามา โดย น้ำพุร้อน มีคุณสมบัติบำรุงรักษาผิวพรรณได้ดี โป่งเดือด นี้เป็น น้ำพุร้อน ประเภทกีเซอร์ซึ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย
- มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแห ง จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำ ลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไปเที่ยวชมความงาม ในอุทยานนี้มีสถานที่ที่น่าสนใจคือ
- --->จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตั้งอยู่ที่ตำบลกึ้ดช้าง อำเภอแม่แตง เป็นที่ตั้งของหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก นักท่องเที่ยวจะได้ชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่และคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งงด งามมาก…
- --->จุดชมวิวดอยช้าง อยู่ทางเหนือของห้วยน้ำดัง เป็นจุดที่สามารถมองเห็นสภาพธรรมชาติของทิวเขาอันสลับซับซ้อน และทะเลหมอกในยามเช้าตรู่
- --->น้ำตกห้วยน้ำดัง เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยน้ำดัง มีโขดหินมากมาย มีความสูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 10 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง
- --->โป่งน้ำร้อนท่าปาย ที่อยู่ในป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบนท้องที่ตำบลแม่ฮี้ สภาพของโป่งน้ำร้อนเป็นบ่อน้ำร้อน น้ำกำลังเดือดเป็นฟองๆ และมีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ พร้อมทั้งมีน้ำร้อนไหลเรื่อยๆ ทั่วบริเวณกว้าง มีบ่อใหญ่สองบ่อ นอกนั้นมีลักษณะเป็นน้ำผุดบางจุด ความร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียส และรอบๆ โป่งร้อนเป็นไม้สักที่สมบูรณ์มาก ภายในบริเวณอนุญาตให้ตั้งเต็นท์พักแรมได้ แต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น
- สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองขณะที่ญี่ปุ่นมีเรืองอำนาจอยู่ในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่าเช่น เดียวกันกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว
- ในอดีตสะพานนี้เคยถูกใช้เป็นเส้นทางเดิน ทางของประชาชนทั่วไป จนกระทั่งปัจจุบันก็มีการสร้างสะพานคอนกรีตมาตรฐานแทนที่ เมื่อสะพานนี้ทรุดโทรมลง
- นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินทางมาถ่ายรูปและ เดินเท้าข้ามสะพานแห่งนี้ เพื่อเป็นที่ระลึกในการมาเยือน อ.ปาย น่าเสียดายที่ในปัจจุบัน สะพานแห่งนี้ทรุดโทรมลงจนไม่สามารถเดินข้ามได้อีกแล้ว
- ร้าน ตั้งอยู่ที่ หลักกม ที่ 95 เส้นทาง 1095 เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน ถ้าเราเดินทางมาจากเชียงใหม่ร้านจะอยู่ทางขวามือก่อนถึง อ.ปายประมาณ 3 กิโลเมตรสังเกตจากป้ายร้านที่มีขนาดใหญ่ได้ง่าย ส่วนใครถ้ามาจากแม่ฮ่องสอน ก็ออกจากปายไป 3 กิโลเมตรร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือจุดสังเกตของร้านอีอย่างหนึ่งก็คือหลัก กิโลเมตรใหญ่ที่ทางร้านทำขึ้นมาสูงประมาณ 2 เมตร ใครที่มาเที่ยวปาย อย่าลืมไปสัมผัสและลิ้มลองกาแฟท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมด้วยภูเขา
วันที่สอง : เช้าสัมผัสปายยามเช้า สายไปนมัสการหลวงพ่ออุ่นเมืองที่วัดน้ำฮู ชมหมู่บ้านจีนสันติชล โป่งร้อนท่าปาย ชมทิวทิศน์ยามเย็นเมืองปายที่วัดพระธาตุแม่เย็น เข้าที่พักในปาย ตอนค่ำสัมผัสเมืองปายยามค่ำคืนบริเวณถนนรังสิยานนท์
วัดน้ำฮู
- เป็นวัดที่อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางโรงพยาบาลปายประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม(ศิลปะล้านนา)ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์อายุประมาณ 500 ปี มีลักษณะพิเศษคือพระเศียรกลวง พระโมฬีเปิดปิดได้มีน้ำซึมออกอยู่เสมอ ประวัติการสร้างไม่แน่นอนแต่เชื่อกันว่าสร้างโดยพระนเรศวรมหาราชเพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระพี่นางพระสุพรรณกัลยา
- เป็นหมู่บ้านชาวจีนที่อพยพถิ่นฐานมาอยู่ที่แห่งนี้ อยู่ห่างจากอำเภอปาย ประมาณ 4.5 กิโลเมตร ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น การแต่งกาย ภาษา โดยเฉพาะอาหารจีนยูนาน ที่เป็นที่นิยมมากนักท่องเที่ยวนิยมไปชมหมู่บ้านพร้อมรับประทานอาหารกลางวัน แบบจีนยูนาน
- ในหมู่บ้าน บ้านที่นี่ จะทำด้วยดิน หรือที่เรียกว่าบ้านดิน ลักษณะรูปทรง น่ารัก อดที่จะถ่ายมาฝากไม่ได้ บรรยากาศรอบมีภูเขา วิวสวย มีของฝากขายจำพวก ผลไม้อบแห้งพวก บ๊วย ทอ ใบชา
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เป็นบ่อน้ำร้อนที่เปรียบเสมือนน้ำกำลังเดือดขึ้นเป็นพรายฟอง อุณหภูมิน้ำผิวดินประมาณ 80 องศาเซสเซียล น้ำร้อนจะไหลรวมกันเป็นธารน้ำร้อนขยายเป็นบริเวณกว้าง มีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- เป็นวัดแก่เก่าคู่เมืองปายมาช้านาน ตั้งอยู่บนภูเขาทางด้านทิศตะวันออกของอำเภอปายห่างจากที่ว่าการอำเภอปายประมาณ 2 กิโลเมตร เลยทางเข้าน้ำตกแม่เย็นไปประมาณ 100 เมตรจากปากทางเข้านักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นไปได้ 2 วิธี จะขับรถขึ้นก็สะดวกหรือจะเดินขึ้นบันไดพญานาคเป็นการออกกำลังกายที่น่าสนใจบริเวณ วัดพระธาตุแม่น้ำเย็นเงียบสงบเหมาะสำหรับสมทัศนียภาพของอำเภอปายได้อย่างกว้างไกลสุดสายตาแบบพาโนรามา ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมคือช่วงยามเช้าและยามพระอาทิตย์ตก โดยประวัติของวัดพระธาตุแม่เย็นไม่มีปรากฏว่าสร้างขึ้นในสมัยใดภายในบริเวณวัดมีเพียงโบสถ์และเจดีย์ทรงระฆังสีขาวฐานกลม สูงประมาณ 3 เมตรโดดเด่นที่ยอดฉัตรแบบเจดีย์พม่า นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางขึ้นมาชมและกราบไหว้พระนอนเดินทางกลับ
วันที่สาม : ออกเดินทางจากปาย ไปอำเภอปางมะผ้า แวะสัมผัสอากาศหนาวที่จุดชมวิวกิ่วลม จากนั้นไปชมความมหัศจรรย์ถ้ำน้ำลอด จากถ้ำน้ำลอด ตรงเข้าสู่แม่ฮ่องสอน พร้อมสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อต่างๆ ในแม่ฮ่องสอน เช่น ถ้ำปลา ปางอุ๋ง บ้านรักไทย ภูโคลน วัดจองคำ-จองกลาง พระธาตุดอยกองมู
จุดชมวิวดอยกิ่วลม
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติส่วนกลาง (เอื้องเงิน) เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามมากที่สุดและมีชื่อเสียงมากในด้านการท่องเที่ยว ที่จะชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ไพศาลในช่วงฤดูหนาว ในยามท้องฟ้าเปิดและแจ่มใสจะมีทัศนียภาพที่สวยงามและหลากจินตนาการของทิวเขา ที่สลับซับซ้อนของยอดดอยเชียงดาวที่มีความสูงประมาณ 2,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล
- สภาพธรรมชาติอันสวยงามของจุดชมทิวทัศน์นี้ เมื่อยืนอยู่ที่บ้านพักของห้วยน้ำดังแล้วมองไปทางทิศตะวันออก ทำให้มองเห็นสภาพธรรมชาติที่สวยงาม ทิวทัศน์ของทิวเขาอันสลับซับซ้อนซึ่งมีดอยหลวงเชียงดาว ที่สูงที่สุดอยู่ใจกลาง และในช่วงเช้าตรู่ของฤดูหนาวจะเกิดทัศนียภาพของทะเลหมอกที่สวยงาม ทางเข้าแยกจากถนนสายแม่มาลัย-ปาย หลักกิโลเมตรที่ 65-66 เป็นทางเข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร นอกจากนี้ บริเวณดอยกิ่วลมยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักเอื้องเงิน ซึ่งเป็นอาคารทรงชาเลย์ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้า กัลยานิวัฒนาฯ ภายในบริเวณโดยรอบพระตำหนักมีการออกแบบภูมิทัศน์ที่ประกอบด้วยพืชประจำถิ่น เช่น กล้วยไม้ “เอื้องเงินหลวง” ที่ออกดอกสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม
- ถ้ำน้ำลอด เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง สวยงาม และเข้าชมได้ง่ายสะดวกสบายที่สุดแล้วในบรรดาถ้ำทั้งหมด ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 141 จากเส้นทางหลวง 1095 (ปาย-ปางมะผ้า) เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 9 กิโลเมตร ตรงเข้าไปจนสุดทางจะพบถ้ำน้ำลอด
- ถ้ำน้ำลอด อยู่ในความดูแลของศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด จากด่านด้านหน้าต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 350 เมตร พร้อมคนนำทางและตะเกียงส่องทาง สาเหตุที่ไม่มีการติดตั้งไฟในถ้ำต่างๆก็เพื่อเป้นการรักษาถ้ำเหล่านี้ให้สวยงามและคงเดิมอยุ่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านใกล้เคียงที่สมัครมาเป็นคนนำทางให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วยเมื่อถึงบริเวณปากทางเข้าถ้ำนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มาถึงบางอ้อว่าทำไมถ้ำแห่งนี้ชื่อว่า “ถ้ำน้ำลอด” นั่นเป็นเพราะถ้ำแห่งนี้มีสายน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปางทางเข้าถ้ำไปจนถึงถ้ำสุดท้ายที่อยู่ภายในโพรงแห่งนี้มีความยาวกว่า 500 เมตร กว้าง 20 เมตร สูง 50 เมตร สายน้ำกัดเซาะโพรงถ้ำแห่งนี้มากกว่าล้านปี ก่อเกิดเป็นถ้ำใหญ่ๆถึง 3 แห่ง ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน เส้นทางท่องเที่ยวทั้ง 3 ถ้ำ ต้องอาศัยการนั่งแพเข้าไป
- ถ้ำเสาหิน จากปากทางเข้าถ้ำเสาหินจะเป็นถ้ำแห่งแรกที่คุณจะได้เข้าไปชมโดยการนั่งแพไปประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเพียงอึดใจเดียวก็ถึงจากนั้นเดินตามทางขึ้นอีกไม่กี่เมตรเท่านั้น ภายในมีธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ “ม่านหินย้อย” หรือที่เรียกกันว่า “หินกากเพชร” มีลักษณะเป็นตะกอนหินปูนคล้ายม่านมีสีขาวสะท้อนแสง นักวิทยาศาสตร์เรียกกันว่า “ผลึกแร่แคลไซด์” ก่อเกิดจากน้ำใต้ดินนับพันปี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในถ้ำแห่งนี้ คือ เสาหินที่ตั้งอยู่ใจกลางถ้ำ มีลักษณะเป็นแท่งเกิดจากหินงอกหินย้อยมาบรรจบกันอย่างสวยงาม มีความสูงประมาณ 21.45 เมตร เปรียบเสมือนเสาหินที่ค้ำเพดานและพื้นถ้ำเอาไว้ ขาออกเดินกลับทางเดิม โดยคุณสามารถนั่งแพไปชมถ้ำที่เหลือหรือจะกลับเลยก็ได้
- ถ้ำตุ๊กตา ถัดจากถ้ำเสาหินหากคุณต้องการไปชมถ้ำตุ๊กตาต้องนั่งแพต่อไปเป็นระยะทาง ประมาณ 80 เมตร เสียค่าแพอีก 100บาท/ลำ ถ้ำนี้โดดเด่นที่หินงอกหินย้อยลักษณะรูปร่างคล้ายตุ๊กตาตั้งเรียงรายอยู่ตาม พื้นทั่วทั้งถ้ำ ใกล้ๆยังมีภาพเขียนของมนุษย์โบราณก่อนประวัติศาสตร์ โดยเป็นภาพที่ใช้สีแดงและสีดำในการวาด ไม่มีหลักฐานบ่งบอกว่าสีที่ใช้ทำมาจากอะไร มีทั้งหมดสามภาพ ได้แก่ ภาพคน สัตว์ และพืช นักท่องเที่ยงควรชมด้วยสายตาเพียงอย่างเดียว ไม่ควรใช้มือสัมผัสเพราะจะทำให้ภาพเสียหายได้
- ถ้ำผีแมน นับเป็นถ้ำสุดท้ายของเส้นทางวงกลม ระยะทางจากถ้ำตุ๊กตาประมาณ 450 เมตร ค่าล่องแพ 100 บาท/ลำเช่นกัน ในอดีตภายในถ้ำแห่งนี้มีโบราณวัตถุที่สำคัญมากมาย เช่น ภาชนะดินเผา กระดูกมนุษย์โบราณ เครื่องมือหินต่างๆ และชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ โลงผีแมน โลงศพไม้สักที่ชื่อกันว่าใช้ฝังศพมนุษย์โบราณ แท้จริงแล้วอำปางมะผ้ามีถ้ำผีแมนในลักษณะนี้ถึง 74 ถ้ำ แต่มีเพียงถ้ำน้ำลอดเท่านั้นที่สามารถเข้าชมได้อย่างสะดวกที่สุด
- ถ้ำลอดสามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีการจัดการรองรับการท่องเที่ยวโดยชุมชนรอบถ้ำ ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. การเข้าชมถ้ำควรมีคนนำทางที่ชำนาญ และมีตะเกียงหรือไฟฉายในการให้แสงสว่าง
- ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่หมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว ทิวทัศน์ของหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่อุดมสมบูรณ์
- บ้านรักไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและขาหมู่หมั่นโถวคล้ายกับดอยแม่สลอง (กองพลเดียวกัน) นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้เพื่อดื่มด่ำกับการชิมชา และ ทานขาหมูหมั่นโถว บ้างก็หลีกหนีความวุ่นวายมาหา
- ความเงียบสบายของบ้านรักไทยแห่งนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมหลายอย่างไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน เช่น การเดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศน์น้อยพาเข้าไปชม "คุกดิน" และการขี่ม้าพาข้ามแดนไปฝั้งพม่า ที่บ้านรักไทย ยังมีเกสถ์เฮาส์ริมน้ำ (บ้านดิน) ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องกับสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดอีกด้วย
- ภูโคลนเป็นแหล่งค้นพบโคลนจากน้ำพุร้อน นับเป็นหนึ่งในสามแหล่งของโลกที่มีการค้นพบโคลน ที่นำมาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาพความงามให้กับผิวพรรณของเรา นอกเหนือจากโคลนใต้ทะเล dead sea และโคลนภูเขาไฟ เนื่องจากมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม ที่ช่วยปรับความสมดุลย์ของผิว โบรไมด์มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค แมกนีเซียมช่วยเสริมสร้างและช่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เป็นต้น ภูโคลนเป็นแหล่งน้ำแร่ และโคลนธรรมชาติที่มาจากสายน้ำแร่ใต้ดินเป็นโคลนเดือดบริสุทธิ์ที่ขึ้นมากับ น้ำแร่ธรรมชาติที่สะอาดและไม่มีกลิ่นกำมะถัน ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนัง และระบบไหลเวียนของโลหิตของมนุษย์ และที่นี่มีบริการพอกโคลนซึ่งใช้เวลาไม่นาน หรือใช้บริการอาบน้ำแร่ นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภูโคลนให้บริการในรูปแบบของแนเชอรัลสปาและมีสระน้ำแร่ธรรมชาติสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.053-282579หรือ http://www.pooklon.com
- วัด จองคำและวัดจองกลางเปรียบเสมือนวัดแฝดด้วยตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกันเมื่อมอง จากทางด้านหน้าวัดจองคำจะอยู่ทางซ้ายมือส่วนวัดจองกลางจะตั้งอยู่ทางขวามือ วัดจองคำและจองกลางตั้งอยู่กลางเมืองแม่ฮ่องสอนและเป็นเสมือนสัญลักษณ์ทาง วัฒนธรรมของเมืองไทใหญ่แห่งนี้ พื้นที่ด้านหน้าของวัดเป็นสวนสาธารณะหนองจองคำที่สวยงามนับเป็นมุมถ่ายภาพ ที่สวยที่สุดเนื่องจากมีวัดจองคำและจองกลางเป็นฉากหลังที่สวยงาม
วันที่สี่ : จากแม่ฮ่องสอน ไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวตามเส้นทางจาก แม่ฮ่องสอน ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง (อาจแวะพักค้างแรมที่แม่สะเรียง เพื่อเข้าสู่เชียงใหม่ หรือ ท่องเที่ยวต่อตามเส้นทางท่องเที่ยว ๓ แม่ในวันถัดไป)
• หมายเหตุ : แหล่งท่องเที่ยวเส้นทางที่ ๑ และ ๒ สามารถปรับชมได้ตามความต้องการ เพราะเส้นทางที่ ๑ และ เส้นทางที่ ๒ เพราะสามารถเดินทางเป็นรอบวงกลมเดียวกันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น